ข้อจำกัดของการจัดฟันใส Invisalign คนไข้ต้องมีวินัยในการใส่แผ่นใส Invisalign คือ 1 วันต้องใส่ 22 ชั่วโมง สามารถถอดออกได้เฉพาะตอนรับประทานอาหาร ตอนแปรงฟัน เท่านั้น ( สามารถถอดได้ในช่วงเวลาสำคัญที่ไม่อยากให้เห็นแผ่นใส Invisalign เช่น สัมภาษณ์งาน พิธีกร งานแต่งงาน เป็นต้น)
– ราคา การจัดฟันใส Invisalign ค่อนข้างสูงกว่าการจัดฟันประเภทอื่น ( ราคา 64,000 – 180,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพฟัน)
– ไม่เหมาะสำหรับคนที่ปัญหาฟันซ้อนเกรุนแรง หรืออาจจะต้องใช้การจัดฟันประเภทอื่นร่วมด้วย
ข้อดีของการจัดฟันใส Invisalign
– ทำความสะอาดได้ง่าย เพราะการไม่มีเหล็กจัดฟันจะทำให้เศษอาหารติดน้อยกว่า
– การระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปากน้อยกว่า เพราะไม่ต้องทนกับเหล็กจัดฟันทิ่มปาก
– มีความสวยงามเวลายิ้มหรือพูดคุย
– ไม่ต้องมาพบทันตแพทย์บ่อย เหมาะสำหรับคนไม่มีเวลา อยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ
– ทานอาหารได้สะดวก หลากหลาย ไม่ต้องกังวลว่าเหล็กจะหลุดหากทานอาหารแข็ง
– เจ็บน้อยเมื่อเทียบกับการใส่เหล็กจัดฟัน อาจมีความรู้สึกตึงๆบ้างหลังเปลี่ยนแผ่นใสแต่ละชุด
ขั้นตอนการจัดฟันแบบใส Invisalign
1. ทันตแพทย์ตรวจสภาพฟันเบื้องต้น พิมพ์ปาก ถ่ายรูป Xray และวางแผนการรักษาการจัดฟัน
2. ขูดหินปูน อุดฟันที่ผุ ผ่าฟันคุดที่จำเป็น เตรียมสำหรับการจัดฟัน หรือที่เราเรียกกันว่า เคลียร์ช่องปาก
3. สแกน iTero แสดงภาพเป็น 3D เพื่อดูภาพหลังการรักษา
4. ดูแผนการรักษาแบบ 3D animation หรือที่เรียกว่า Clincheck เพื่อประเมินแนวทางการเคลื่อนฟัน จำนวนชุดแผ่นใส และผลการรักษา จากนั้นยืนยัน Clincheck เพื่อเข้าสู่การผลิตชิ้นงานแผ่นใส
5. ติดปุ่ม attachment บนฟัน ซึ่งจะเป็นปุ่มเล็กๆ สีเหมือนฟัน เพื่อช่วยในเสริมประสิทธิภาพในการเคลื่อนฟัน
6. ใส่แผ่นใส Invisalignแต่ละชุด ตามที่ทันตแพทย์จัดฟันกำหนดให้ โดยต้องใส่เครื่องมือทั้งกลางวันและกลางคืน สามารถถอดออกได้เฉพาะเวลาแปรงฟัน เวลารับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มเท่านั้น
7. มาพบทันตแพทย์ทุก 2-3 เดือนเพื่อตรวจเช็ค ติดตามผลเป็นระยะ
8. ขูดหินปูนและทำความสะอาดฟันทุก 5-6 เดือน
9. หลังจากจัดฟันเสร็จ ใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน (Retainer) เพื่อคงรักษาแบบฟันและรอยยิ้มสวยๆไปนานๆ